ออกกำลังกายให้ประโยชน์แก่ผิวพรรณอย่างไร




 ออกกำลังกายให้ประโยชน์แก่ผิวพรรณอย่างไร ? 

มีการศึกษาวิจัยที่ชี้ถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายที่มีต่อสุขภาพผิวไว้ ดังนี้

  • การออกกำลังกายช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ โดยนักวิจัยพบว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำและมีอายุ 40 ปี ขึ้นไป มีผิวที่ยืดหยุ่นคล้ายกับผิวของคนที่อยู่ในวัยประมาณ 20 ปี และ 30 ปี ซึ่งคาดว่าการออกกำลังกายอาจช่วยเสริมสร้างสารเคมีภายในร่างกายที่ช่วยชะลอความชราของผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป
  • การออกกำลังกายช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยการออกกำลังกายแบบแอโรบิคทำให้หัวใจสูบฉีดเลือด และช่วยให้เลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างมากหลังการออกกำลังกาย
  • การออกกำลังกายอาจช่วยให้ริ้วรอยลดลงได้ เพราะการออกกำลังกายช่วยควบคุมปริมาณฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอลในร่างกาย ซึ่งหากมีฮอร์โมนชนิดนี้ในร่างกายมากเกินไปก็อาจทำให้คอลลาเจนในผิวหนังถูกทำลายได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายอาจช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวหนังกระชับและยืดหยุ่นด้วย
  • การออกกำลังกายช่วยลดสิว โดยการออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้มีการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนในผิวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายขับสารพิษและสิ่งอุดตันในรูขุมขนใต้ผิวหนังออกมา ทั้งนี้ การออกกำลังกายยังช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดสิวให้อยู่ในระดับปกติอีกด้วย
  • การออกกำลังกายแบบพอเหมาะเป็นประจำอาจช่วยให้ร่างกายผลิตสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติได้ ซึ่งสารนี้อาจช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย
  • การออกกำลังกายช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะมีสุขภาพดียิ่งขึ้น โดยการออกกำลังกายช่วยให้มีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งสารอาหารที่อยู่ในเลือดจะกระตุ้นรูขุมขนบนหนังศีรษะและช่วยให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายอาจช่วยคลายความเครียดได้ดี ซึ่งหากมีความเครียดลดลง อาจช่วยให้เส้นผมแห้งหรือหลุดร่วงน้อยลงด้วย


ออกกำลังกายอย่างไรให้มีผิวพรรณและสุขภาพที่ดี ?

เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพผิวพรรณและร่างกายโดยรวม คนทั่วไปควรออกกำลังกายแบบความหนักปานกลางเป็นเวลา 150 นาที/สัปดาห์ โดยอาจวิ่งเร็วพอประมาณหรือเต้นรำก็ได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้มีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนัก และทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่ยังคงพูดเป็นประโยคสั้น ๆ ได้ หรือออกกำลังกายแบบหนักมาก ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเพิ่มขึ้น โดยออกกำลังกายเป็นเวลา 75 นาที/สัปดาห์ ด้วยกิจกรรม เช่น ปีนเขา เล่นฟุตบอล เล่นวอลเลย์บอล เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้มีอัตราการเต้นของหัวใจสูง หายใจเร็วขึ้น พูดเป็นคำ ๆ ได้ แต่พูดเป็นประโยคไม่ได้ นอกจากนี้ อาจลองออกกำลังกายแบบผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบความหนักปานกลางกับแบบหนักมาก โดยอาจเดินเร็ว วิ่ง หรือว่ายน้ำ ร่วมกับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 ครั้ง/สัปดาห์  

อย่างไรก็ตาม ก่อนออกกำลังกายควรไปปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุขภาพของตนเองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังอย่างโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ภาวะข้ออักเสบ หรือหากมีความกังวลใด ๆ เพื่อให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิผลสูงสุด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 ร้านเด็ด เด็กบดินทร (สิงหเสนี) ไม่ควรพลาด

How To ดื่มชาในแบบผู้ดีอังกฤษแท้ๆ (ฉบับงานเลี้ยงน้ำชาชนชั้นสูง)

Rice Ceramide คืออะไร